🇹🇭 “เมื่อเขามาด้วยปืน เราต้องไม่ยื่นดอกไม้”

🇹🇭 “เมื่อเขามาด้วยปืน เราต้องไม่ยื่นดอกไม้”

Soft Power อย่างเดียวไม่พอ... ถึงเวลาที่ไทยต้องยืนหยัดด้วย Hard Power อย่างจริงจังและเด็ดขาด

การที่ผู้นำกัมพูชาภายใต้ตระกูลฮุน เปิดฉากรุกล้ำไทย ทั้งทางทหาร ข่าวสาร และการบิดเบือนข้อมูลที่ทำให้พี่น้องทั้งประชาชน เด็ก ๆ และเจ้าหน้าที่ต้องบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก — จนคนไทยมากมายต้องเสียน้ำตา

นี่ไม่ใช่แค่ความขัดแย้งทางชายแดนแต่มันคือ การรุกรานอธิปไตยของชาติอย่างชัดแจ้ง

การนิ่งเฉย = ยอมจำนน

การประณีประนอมเกินพอดี = เปิดช่องให้เพื่อนบ้าน “เหิมเกริม”

วันนี้เราต้องถามตัวเองว่า…

ประเทศไทยมี “ทางออก” อย่างไร

เพื่อหยุดภัยคุกคามนี้อย่างชาญฉลาด กล้าหาญ และยั่งยืน?

🇹🇭 ทางเลือกที่ 1: “เจรจาเข้มข้น บนเวทีโลก”

เดินเกมทูตอย่างสง่างาม ไม่ใช่ด้วยความอ่อนแอ

ใช้เวที UN, ASEAN, ศาลโลก (ICJ) ร่วมกับพันธมิตร เพื่อประณามการกระทำของกัมพูชายืนยันว่าพวกเขาเป็นฝ่ายรุกก่อนไทยจะไม่ก้มหัว… แต่ก็จะไม่เป็นผู้รุกรานยืนหยัดในความชอบธรรม ปกป้องอธิปไตยด้วยหลักฐานและพันธมิตร

✅ ข้อดี: ลดการปะทะ ได้ใจเวทีโลก ยืนอย่างมีศักดิ์ศรี

⚠️ ข้อเสีย: ช้า และอาจไม่ได้ผล หากอีกฝ่ายไม่ยอมรับกระบวนการ

📌 กรณีศึกษา: เกาหลีใต้–เกาหลีเหนือ

แม้ถูกยั่วยุหลายครั้ง แต่เกาหลีใต้เลือกเดินบนเส้นทางแห่งหลักการ โดยใช้เวทีโลกเป็นเกราะกำบัง

🔑 Key Success Factors:

• หลักฐานทางทหาร–มนุษยธรรมที่ชัดเจน

• พันธมิตรระดับโลกที่พร้อมสนับสนุน

• ศูนย์ข้อมูลข้อเท็จจริงเชิงรุก

• ทีมประเทศไทย ที่แข็งแรง ทั้งนักการทูต นักกฎหมาย และทีมสื่อสารระดหว่างประเทศ เชิงรุกที่กล้ายืนหยัดในความจริง

  
  

🇹🇭 ทางเลือกที่ 2: “เปลี่ยนเกมจากภายในเขา ไม่ใช่เรา”

ปลุกคนเขมรให้รู้ว่า ศัตรูของเขา... อาจอยู่ในวัง ไม่ใช่นอกชายแดน

ไทยไม่ต้องรบ แต่ปลุกให้เขาคิดสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย นักคิดอิสระ ราชวงศ์ดั้งเดิม และเยาวชนผู้รักความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้คนกัมพูชาตื่นรู้ ว่าผู้นำที่สร้าง Fake News และปลุกชาตินิยมเทียมคือคนที่กำลังทำลายบ้านเกิดของพวกเขาเอง

✅ ข้อดี: เปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ

⚠️ ข้อเสีย: ใช้เวลานาน ต้องต่อเนื่องและลับคมข่าวสารตลอดเวลา

📌 กรณีศึกษา: โปแลนด์ – ขบวนการ Solidarity ล้มเผด็จการโดยไม่มีปืน

🔑 Key Success Factors:

• สื่อภาษาเขมร ที่เข้าถึงเยาวชนและชาวบ้าน

• เครือข่าย “คนวงใน” จากฝ่ายค้าน ทหารสายปฏิรูป หรือราชวงศ์

• สนับสนุนการศึกษา เสียงทางเลือก และช่องทางหลุด Echo Chamber

• ใช้เทคโนโลยี VPN + Content Strategy เจาะเข้า “จิตสำนึก”

  
  

🇹🇭 ทางเลือกที่ 3: “โต้กลับด้วยไฟ – หยุดภัยด้วยเหล็ก”

ใช้ Hard Power อย่างชาญฉลาด

เมื่อเขารุกล้ำด้วยปืน... เราต้องไม่ยื่นช่อดอกไม้ถ้าอีกฝ่ายยังรุกและทำร้ายชีวิตพลเรือนไทย การตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์ - การทำลายฐานที่มั่น อาวุธ ปิดจุดบุกรุกของฝั่งตรงข้าม- หรือแม้แต่ neutralize ผู้ออกคำสั่ง - ต้องถูกพิจารณาอย่างกล้าหาญ

✅ ข้อดี: หยุดภัยได้ทันที ยืนในจุดแข็งของอธิปไตย สร้างอำนาจต่อรองในระยะยาวได้อย่างเด็ดขาด

⚠️ ข้อเสีย: ต้องพร้อมทุกมิติ ทั้งข่าวสาร พันธมิตร และแผนหลังชัยชนะ

📌 กรณีศึกษา:

• อิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ซีเรีย / กาซา เพื่อหยุดภัยก่อนจะเกิด ใช้การโจมตีจุดยุทธศาสตร์แบบรวดเร็ว แม่นยำ ไม่เสียเวลา โลกอาจวิจารณ์... แต่มิอาจมองข้าม

• NATO โค่นกัดดาฟีในลิเบีย อย่างรวดเร็วเพื่อหยุดผู้นำเผด็จการ ที่เข่นฆ่าประชาชน

🔑 Key Success Factors:

• ข่าวกรองแม่นยำ พร้อมคำอธิบายต่อสาธารณะ

• Surgical strike ที่หลีกเลี่ยงการทำร้ายพลเรือน

• สื่อสารความชอบธรรมผ่านช่องทางสากล

• เตรียมโครงข่ายผู้นำใหม่ของกัมพูชา ที่มุ่งสร้างสันติ ไม่ใช่ปีศาจในคราบมนุษย์

• มีแผนฟื้นฟูประเทศเป้าหมายหลังความขัดแย้ง

  
  

🧭 บทสรุปจากใจในฐานะ “คนไทยคนหนึ่ง”:

Soft Power ดี…

แต่ในยุคของผู้นำที่โหดเหี้ยมและบิดเบือนความจริง

Hard Power ต้องเดินคู่ไปด้วย

เราจะต้อง “อ่อนโยนกับมิตร”และ “เด็ดขาดกับศัตรู”

ประเทศไทยเราไม่ใช่ผู้เริ่มรบ ไม่กระหายสงคราม และไม่รุกรานใคร

แต่ถ้ามีใครคิดจะเหยียบย่ำแผ่นดินไทย ด้วยอำนาจเถื่อนและความเท็จ

เราต้องพร้อมตอบให้ถึงที่สุดด้วย ปัญญา, ความเด็ดขาด, และพลังที่สมดุล

หากเรานิ่งเฉย ปล่อยให้เพื่อนบ้านยิงปืน แต่เรายื่นดอกไม้

หากเรายอมให้ใครบางคนเหยียบแผ่นดินเรา แล้วเรียกมันว่า "ชอบธรรม"

หากเราปล่อยให้ทหารและประชาชนไทยตายไปวันแล้ววันเล่า

โดยไม่ทำหน้าที่ของเราทุกคนอย่างดีที่สุด

นั่นคือเราทำร้ายประเทศชาติ และลูกหลานเรา

... ด้วยมือของตัวเอง

ด้วยความปรารถนาดี จากหัวใจคนไทยคนหนึ่ง

บอม โอฬาร วีระนนท์

#เมื่อเขามาด้วยปืนเราต้องไม่ยื่นดอกไม้

#SoftPowerต้องมาพร้อมHardPower

#หยุดภัยร้ายข้ามแดน

#เพื่อชาติและศักดิ์ศรีไทย

#บอมโอฬารวีระนนท์